นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "นโยบาย" บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2560 และแก้ไขล่าสุด ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยาม
ภายในนโยบายฉบับนี้
(ก) "เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน" หมายความว่า
เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ชื่อว่า GUCars และมีที่อยู่เว็บไซต์ที่
https://gucars.com/
(ข)
"ผู้ควบคุมข้อมูล" หมายความว่า ผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
ตามนโยบายฉบับนี้ อันได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล คอนเทนท์ จำกัด
ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0125539001981 สำนักงานตั้งอยู่ที่ 92/37 ถ.จตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหม
กรุงเทพมหานคร 10220 ติดต่อ support@gucars.com
(ค) "ผู้ประมวลผลข้อมูล" หมายความว่า
บุคคลภายนอกซึ่งประมวลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล
(ง) "ข้อมูล" หมายความว่า
สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ
ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ
และไม่ว่าจะได้จัดทำไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม
การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้
(จ)
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาใดๆ
ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
(ฉ)
"ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หรือ "Sensitive Data" หมายความว่า
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง
ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ
พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงาน
หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
(ช) "ผู้ใช้งาน" หมายความว่า ท่าน ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้
ผู้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
ข้อ 2 ความยินยอมของผู้ใช้งาน
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานตกลงและให้ความยินยอมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
(ก) วัตถุประสงค์แห่งการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้เท่านั้น
การประชาสัมพันธ์ การตลาด และการเรียกเก็บค่าบริการ
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและใช้
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้เท่านั้น
ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล
(ค) ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 12 (สิบสอง) เดือนนับจากวันที่ได้มีความยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
ข้อ 3 การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันกับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันกับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยในการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สามในแต่ละคราว ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบว่าข้อมูลของผู้ใช้งานใดที่จะถูกเชื่อมโยงหรือแบ่งปันแก่ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้งานได้แสดงเจตนาโดยชัดแจ้งในการอนุญาตให้มีการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันดังกล่าวนั้น อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การกดยอมรับ อนุญาต เชื่อมโยง แบ่งปันหรือการกระทำใดๆ อันมีลักษณะโดยชัดแจ้งว่าผู้ใช้งานได้ยินยอมในการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้น
ข้อ 4 การถอนความยินยอมของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานรับทราบว่าผู้ใช้งานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมใดๆ ที่ผู้ใช้งานได้ให้ไว้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามนโยบายฉบับนี้ได้ ไม่ว่าเวลาใดโดยการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรที่ support@gucars.com
โดยผู้ใช้งานยังรับทราบอีกว่าเมื่อผู้ใช้งานได้ดำเนินการถอนความยินยอมแล้ว ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ ดังต่อไปนี้
ผู้ใช้งานอาจไม่ได้รับบริการที่ถูกต้องและไม่มีประสิทธิภาพ
โดยที่ ผู้ใช้งานยังได้ตกลงยอมรับซึ่งผลแห่งการถอนความยินยอมนั้นทั้งสิ้น
ข้อ 5 บัญชีผู้ใช้
ในการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ควบคุมข้อมูลอาจจัดให้มีบัญชีผู้ใช้ของแต่ละผู้ใช้งานเพื่อการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยที่ผู้ควบคุมข้อมูลมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการอนุมัติเปิดบัญชีผู้ใช้ กำหนดประเภทบัญชีผู้ใช้ กำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละประเภทบัญชีผู้ใช้ สิทธิการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้นั้นๆ
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานตกลงจะเก็บรักษาชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลใดๆ ของตนไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และตกลงจะไม่ยินยอมให้ รวมถึงใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้งานบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้งาน
ในกรณีที่มีการใช้บัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้งานโดยบุคคลอื่น ผู้ใช้งานตกลงและรับรองว่าการใช้งานโดยบุคคลอื่นดังกล่าวได้กระทำในฐานะตัวแทนของผู้ใช้งานและมีผลผูกพันเสมือนหนึ่งผู้ใช้งานเป็นผู้กระทำการเองทั้งสิ้น
ข้อ 6 สิทธิของผู้ใช้งาน
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันตามนโยบายฉบับนี้และการให้ความยินยอมใดๆ ตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ใช้งานได้รับทราบถึงสิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างดีแล้ว อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิของผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้
(ก)
ผู้ใช้งานอาจถอนความยินยอมที่ให้ไว้ตามนโยบายฉบับนี้เมื่อใดก็ได้
โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามวิธีและช่องทางที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้
(ข)
ผู้ใช้งานมีสิทธิการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนที่ผู้ควบคุมข้อมูลได้เก็บรวบรวมเอาไว้ตามนโยบายฉบับนี้
(ค)
ผู้ใช้งานมีสิทธิได้รับการเปิดเผยจากผู้ควบคุมข้อมูลถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนซึ่งตนไม่ได้ให้ความยินยอม
หากว่ามีกรณีเช่นว่า
(ง)
ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น
รวมถึงการขอรับข้อมูลที่ได้ส่งหรือโอนดังกล่าวโดยตรงจากผู้ควบคุมข้อมูลที่ส่งหรือโอนข้อมูลนั้นด้วย
(จ) ผู้ใช้งานอาจคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
(2) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
(3) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
(4) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
โดยที่การศึกษาวิจัยนั้นไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ
(ฉ) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1)
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(2)
เมื่อผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นและผู้ควบคุมข้อมูลนั้นไม่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้อีกต่อไป
(3) เมื่อผู้ใช้งานได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
(4) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ
ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(ช) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยยังคงเก็บรักษาเอาไว้ได้อยู่ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1)
ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบดังกล่าว
(2)
ข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(3)
ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีความจำเป็นต้องการให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอาไว้เพื่อประโยชน์ในสิทธิเรียกร้องของผู้ใช้งานเอง
อันได้แก่ การก่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของผู้ใช้งาน
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลเพียงระงับการใช้ข้อมูลแทนการดำเนินการลบ ทำลาย
หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้
(4)
ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการพิสูจน์หรือตรวจสอบเพื่อปฏิเสธการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้คัดค้านโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น
(ซ) เมื่อผู้ใช้งานพบเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานผิด
ล้าหลัง ไม่ชัดเชน ผู้ใช้งานมีสิทธิให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
(ฌ)
ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูล
ข้อ 7 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ด้วยมาตรการ มาตรฐาน เทคโนโลยีและ/หรือด้วยระบบ ดังต่อไปนี้
กำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล (Access Right) ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ใช้การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ในการส่งข้อมูล
ข้อ 8 การแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีระบบและมาตรการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้
(ก) ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(ข) ลบ
ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกินระยะเวลาเก็บรวบรวมที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมเอาไว้ และ
(ค) ลบ
ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมเอาไว้
ข้อ 9 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่าผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
(ก)
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
(ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลใดๆ
(ค)
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญาดังกล่าวนั้น
(ง)
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลนั้น
(จ)
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้น
(ฉ)
เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็นสำคัญ
ข้อ 10 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่านอกจากการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งให้เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้แล้ว ผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
(ก) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย
หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
(ข)
เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม
การใช้หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(ง)
เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวกับ
(1) เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์
การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์
การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ
หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์
(2)
ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น
การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร
หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์
ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
(3) การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย
การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือการคุ้มครองทางสังคม
ซึ่งการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล
โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(4) การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์
หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ ด้วยการเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยเพียงเท่าที่จำเป็นและได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศกำหนด
(5) ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็นสำคัญ
ข้อ 11 การใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบุคคลซึ่งอยู่ในความปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานรับรองว่าจะตนไม่ใช่และจะไม่ยินยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ เยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
(ก) คนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความอนุบาลของผู้ใช้งาน
(ข)
คนเสมือนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ของผู้ใช้งาน
ในกรณีที่ผู้ใช้งานยินยอมให้บุคคลลักษณะดังกล่าวข้างต้นเยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานตกลงให้ถือว่าผู้ใช้งานได้ใช้อำนาจปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ในการตกลงและให้ความยินยอมตามนโยบายฉบับนี้ทั้งสิ้นเพื่อและในนามของบุคคลดังกล่าวด้วย
ข้อ 12 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(ก)
ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยที่ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับแจ้งและรับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลนั้นแล้ว
(ค) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ง)
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญานั้นหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
(จ)
เป็นการกระทำการตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ฉ) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย
หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือบุคคลใดๆ
เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
(ช)
เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
ข้อ 13 การแจ้งเตือนเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลทราบถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะมีการละเมิดโดยบุคคลใด ผู้ควบคุมข้อมูลจะดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก)
ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ
ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
(ข)
ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบอย่างสูงต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ
ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและแนวทางการเยียวยาต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและต่อผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
ข้อ 14 การร้องเรียนและการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนและรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลแก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือให้ถูกต้อง การคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือระงับการใช้ข้อมูล ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
support@gucars.com
ข้อ 15 การบันทึกรายการสำคัญ
เว้นแต่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดให้สิทธิผู้ควบคุมข้อมูลไว้เป็นเป็นอย่างอื่น ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกรายการสำคัญเกี่ยวกับการจัดเก็บ การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการตรวจสอบจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลหรือจากหน่วยงานของรัฐ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรายการ ดังต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
(ข)
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
(ค)
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูล
(ง)
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
(จ)
สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
รวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ฉ) การเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล
(ช) การปฏิเสธคำขอและการคัดค้านต่างๆ
(ซ)
รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 16 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
ผู้ควบคุมข้อมูลอาจแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในนโยบายฉบับนี้ได้ ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม และไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราวเพื่อให้ผู้ใช้งานได้พิจารณาและดำเนินการยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด และหากว่าผู้ใช้งานได้ดำเนินการเพื่อยอมรับนั้นแล้วให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย
อนึ่ง ผู้ใช้งานอาจเข้าถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงล่าสุดได้จากแหล่งที่ผู้ควบคุมข้อมูลจัดแสดงไว้จากช่องทาง ดังต่อไปนี้
https://gucars.com/legal/privacy-policy
ข้อ 17 ความสัมพันธ์ของคู่สัญญา
โดยที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเข้าใจและทราบดีว่า การเข้าทำนโยบายฉบับนี้ไม่ทำให้คู่สัญญาและพนักงานของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีความสัมพันธ์ในฐานะเป็นลูกจ้างตามกฎหมายแรงงานหรือเป็นหุ้นส่วนกันตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทแต่อย่างใด
ข้อ 18 การโอนสิทธิ
เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดแจ้งในนโยบายฉบับนี้ คู่สัญญาตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามนโยบายฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นการล่วงหน้าก่อน
ข้อ 19 การสละสิทธิ
การที่ผู้ควบคุมข้อมูลไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้ควบคุมข้อมูลสละสิทธิในเรื่องดังกล่าว และการที่ผู้ควบคุมข้อมูลใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย
ข้อ 20 การแยกส่วนของนโยบาย
หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในนโยบายฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม คู่สัญญาตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในนโยบายฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในนโยบายฉบับนี้
ข้อ 21 กฎหมายที่ใช้บังคับ
นโยบายฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย
ข้อ 22 การระงับข้อพิพาท
หากมีข้อโต้เถียง ข้อขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนโยบายฉบับนี้ หากคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ คู่สัญญาตกลงจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไทย